TOP 10 บทความยอดนิยม

ดูทั้งหมด
สอนเทรดมือใหม่

เปิดเผย 5 เคล็ดลับการเทรดง่ายๆ ที่ทำให้พอร์ตโตอย่างต่อเนื่อง!

ตุลาคม 9, 2024

สุดยอดคู่มือ: 5 เคล็ดลับการเทรดที่พิสูจน์แล้ว เพื่อสร้างพอร์ตให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ในโลกของการลงทุนที่ผันผวนและเต็มไปด้วยโอกาส การ เทรด ถือเป็นหนึ่งในช่องทางที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการเทรดจะต้องซับซ้อน ใช้เครื่องมือมากมาย หรือต้องมี ‘สูตรลับ’ ที่ยากจะเข้าถึง แท้จริงแล้ว ความสำเร็จในการเทรดมักจะเริ่มต้นจากหลักการพื้นฐานที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ซึ่งหากนำไปปฏิบัติอย่างมีวินัยและต่อเนื่อง ก็สามารถทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน บทความนี้จะเปิดเผย 5 เคล็ดลับการเทรดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นรากฐานสำคัญของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งขยายความในแต่ละประเด็นเพื่อให้คุณเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และสามารถนำไปปรับใช้ในเส้นทางการเทรดของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5 เคล็ดลับการเทรดง่ายๆ

1. เลือกสินทรัพย์ที่คุณเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ทำไมการเข้าใจสินทรัพย์จึงสำคัญ?

การ เทรด สินทรัพย์ที่คุณมีความรู้และความเข้าใจอย่างถ่องแท้เป็นรากฐานสำคัญในการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อคุณเข้าใจกลไก ราคาและปัจจัยที่ขับเคลื่อนสินทรัพย์นั้นๆ คุณจะสามารถคาดการณ์แนวโน้มและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น เปรียบเสมือนการขับรถในเส้นทางที่คุณคุ้นเคย ย่อมปลอดภัยและไปถึงที่หมายได้เร็วกว่าการขับรถในเส้นทางที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

จะรู้ได้อย่างไรว่าเข้าใจสินทรัพย์ใด?

  • ศึกษาพื้นฐาน (Fundamental Analysis): ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวบริษัท (ถ้าเป็นหุ้น) หรือปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค (ถ้าเป็น Forex หรือสินค้าโภคภัณฑ์) ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาของสินทรัพย์นั้นๆ เช่น รายงานผลประกอบการ, ข่าวเศรษฐกิจ, นโยบายของธนาคารกลาง
  • วิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): เรียนรู้รูปแบบกราฟ, อินดิเคเตอร์ ต่างๆ (Stochastic, RSI, MACD, Moving Average) เพื่อจับสัญญาณการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต ซึ่งอาจบ่งบอกถึงแนวโน้มในอนาคต
  • ประสบการณ์ตรง: เริ่มต้นด้วยการทดลองเทรดในบัญชี Demo เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวของราคาและทดสอบกลยุทธ์ของคุณ

ข้อควรระวัง

หากคุณเทรดในสินทรัพย์ที่ไม่เข้าใจ คุณอาจตกเป็นเหยื่อของข่าวลือหรือการตัดสินใจตามอารมณ์ ซึ่งมักนำไปสู่การขาดทุนอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การเทรดหุ้นเทคโนโลยีโดยไม่เข้าใจโมเดลธุรกิจ หรือเทรดทองคำโดยไม่ทราบว่าปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์มีผลอย่างไร ย่อมเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง

2. สร้างและยึดมั่นในแผนการเทรดที่ชัดเจน

แผนการเทรดคืออะไร และทำไมต้องมี?

แผนการเทรดคือพิมพ์เขียว (Blueprint) ที่ระบุแนวทางและกฎเกณฑ์ทั้งหมดในการตัดสินใจเทรดของคุณ มันเป็นเสมือนเข็มทิศที่จะนำทางคุณในตลาดที่ไร้ทิศทาง การมีแผนที่ชัดเจนช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล ลดอิทธิพลของอารมณ์ และสร้างความสม่ำเสมอในการเทรด แนวคิด 3 M’s (Mind, Money, Method) เน้นย้ำความสำคัญของ “Method” หรือวิธีการที่ชัดเจน ซึ่งรวมอยู่ในแผนการเทรดด้วย

องค์ประกอบสำคัญของแผนการเทรด

  1. สินทรัพย์ที่เทรด: ระบุสินทรัพย์ที่คุณจะเทรด (เช่น หุ้น A, คู่เงิน EUR/USD, ทองคำ)
  2. กลยุทธ์การเทรด: กำหนด กลยุทธ์ ที่ใช้ (เช่น Scalping, Day Trading, Swing Trading) พร้อมระบุเงื่อนไขการเข้าซื้อ (Entry) และการขาย (Exit) ที่ชัดเจน
  3. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management): กำหนดขนาด Position, จุดตัดขาดทุน (Stop Loss – SL) และจุดทำกำไร (Take Profit – TP) ในแต่ละการเทรดอย่างเคร่งครัด การไม่กำหนด SL อาจนำไปสู่การขาดทุนที่ไม่จำกัดได้
  4. กรอบเวลา (Timeframe): เลือกว่าจะเทรดในกรอบเวลารายวัน, รายสี่ชั่วโมง หรือรายสัปดาห์ ซึ่งจะมีผลต่อกลยุทธ์และจุดเข้าออก
  5. กฎระเบียบส่วนตัว: เช่น จะไม่เทรดในช่วงที่มีข่าวสำคัญ, จะไม่เทรดเกินจำนวนครั้งที่กำหนดต่อวัน

จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่มีแผน?

การเทรดโดยไม่มีแผนคือการเดินเข้าสู่สนามรบโดยไม่มีอาวุธหรือกลยุทธ์ คุณจะถูกอารมณ์พาไป (เช่น โลภเมื่อเห็นกำไร หรือกลัวเมื่อเห็นขาดทุน) ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดอย่างต่อเนื่องและนำไปสู่การล้างพอร์ตในที่สุด การมีแผนช่วยให้คุณมี กรอบการบริหารความเสี่ยง และการตัดสินใจที่มั่นคง

3. อย่าหยุดเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ

ทำไมการเรียนรู้ต่อเนื่องจึงจำเป็น?

ตลาด การเทรด มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีสูตรสำเร็จใดที่ใช้ได้ผลตลอดไป สิ่งที่เคยทำกำไรได้ในอดีต อาจไม่สามารถใช้ได้ผลในอนาคต การหยุดเรียนรู้คือการยืนอยู่กับที่ ในขณะที่โลกกำลังหมุนไปข้างหน้า ซึ่งจะทำให้คุณล้าหลังและพลาดโอกาสสำคัญไปในที่สุด

วิธีการเรียนรู้และพัฒนาทักษะ

  • อ่านและวิเคราะห์: ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ, บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ, หนังสือเกี่ยวกับการเทรด, บทความเชิงลึก เช่น ความหมายและกลยุทธ์ของแท่งเทียน Marubozu หรือ เชิงเทียน Marubozu คืออะไร
  • เข้าร่วมสัมมนาและคอร์สเรียน: แม้จะมีค่าใช้จ่าย แต่การลงทุนในการศึกษาจากผู้มีประสบการณ์สามารถประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดของคุณได้มาก
  • ฝึกฝนและทดสอบ: นำความรู้ใหม่ๆ ที่ได้มาทดสอบกับข้อมูลในอดีต (Backtest) หรือในบัญชี Demo ก่อนนำไปใช้จริง
  • เปิดใจรับสิ่งใหม่: เทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ เช่น AI ในการเทรด หรือ ระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) การเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้เปรียบ

ผลลัพธ์ของการไม่หยุดเรียนรู้

นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมักจะเป็นผู้ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาตนเองได้ตลอดเวลา พวกเขาเข้าใจว่าตลาดคือสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงได้ การเรียนรู้และปรับตัวทำให้พวกเขาสามารถค้นหากลยุทธ์ใหม่ๆ และอยู่รอดได้ในทุกสภาวะตลาด

4. ควบคุมอารมณ์ให้เหนือกว่าความผันผวนของตลาด

จิตวิทยาการเทรดคืออะไร?

จิตวิทยาการเทรด เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดและยากที่สุดในการควบคุม การเทรดด้วยอารมณ์ เช่น ความโลภ, ความกลัว, ความหวัง, หรือความแค้น มักนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและสร้างความเสียหายให้กับพอร์ตอย่างรุนแรง นักเทรดที่มีวินัยจะเข้าใจว่าอารมณ์คือศัตรูตัวฉกาจที่ต้องจัดการ

เคล็ดลับในการควบคุมอารมณ์

  • ยึดมั่นในแผน: กลับไปที่ข้อ 2 การมีแผนการเทรดที่ชัดเจนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดการตัดสินใจตามอารมณ์ได้มาก
  • กำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้: ก่อนเริ่มเทรด ให้คุณกำหนดว่าสามารถยอมรับการขาดทุนได้เท่าไหร่ในแต่ละครั้ง หากถึงจุดนั้นแล้ว ให้ตัดขาดทุนทันทีโดยไม่ลังเล สิ่งนี้ช่วยลดความกลัวในการขาดทุนที่อาจจะมากขึ้น
  • พักเมื่อเหนื่อยล้า: การเทรดต้องใช้สมาธิสูง หากคุณรู้สึกเหนื่อย, เครียด หรืออารมณ์ไม่ปกติ ควรหยุดพักและกลับมาเทรดเมื่อพร้อม เพราะการฝืนเทรดมักนำไปสู่ความผิดพลาด
  • ฝึกสติและสมาธิ: การฝึกสมาธิหรือการทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบสามารถช่วยให้คุณมีสติและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นในสถานการณ์จริงของการเทรด การมี Mindset ที่ดีและวินัย เป็นสิ่งสำคัญมาก

ผลลัพธ์ของการไม่ควบคุมอารมณ์

การเทรดตามอารมณ์มักนำไปสู่พฤติกรรมที่เรียกว่า “Overtrading” (เทรดมากเกินไป), “Revenge Trading” (เทรดเพื่อเอาคืนเมื่อขาดทุน) หรือ “Gambling” (การพนัน) ซึ่งล้วนแต่เป็นเส้นทางสู่ความล้มเหลว การสร้างวินัยในการเทรด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

5. บันทึกผลการเทรดอย่างสม่ำเสมอ (Trading Journal)

Trading Journal คืออะไรและทำไมต้องทำ?

Trading Journal หรือบันทึกผลการเทรด คือเครื่องมืออันทรงพลังที่นักเทรดมืออาชีพทุกคนใช้เพื่อวิเคราะห์และพัฒนาการเทรดของตนเอง มันไม่ใช่แค่การจดบันทึกว่าได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ แต่เป็นการบันทึกรายละเอียดของทุกการเทรด เพื่อให้คุณสามารถกลับมาทบทวน หาข้อผิดพลาด และปรับปรุงกลยุทธ์ในอนาคต

ข้อมูลสำคัญที่ควรบันทึกใน Trading Journal

  • วันที่และเวลา: เพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์หรือข่าวสารสำคัญในตลาด
  • สินทรัพย์ที่เทรด: หุ้น, Forex, คริปโต หรืออื่นๆ
  • จุดเข้าและจุดออก (Entry & Exit Price): ราคาที่คุณเปิดและปิด Position
  • ขนาด Position (Lot Size): เพื่อวิเคราะห์การบริหารเงินทุน (Money Management)
  • เหตุผลในการเข้าเทรด: อ้างอิงจากแผนการเทรดของคุณ (เช่น เกิดสัญญาณจาก RSI, ราคาชนแนวรับ)
  • จุด Stop Loss (SL) และ Take Profit (TP): ที่กำหนดไว้ในแผน
  • อารมณ์และความรู้สึก: ในขณะที่เปิดและปิด Position (เช่น ตื่นเต้น, กลัว, มั่นใจ) สิ่งนี้สำคัญมากในการทำความเข้าใจจิตวิทยาของตนเอง
  • ผลลัพธ์: กำไรหรือขาดทุนเป็นจำนวนเงินหรือเป็นเปอร์เซ็นต์
  • บทเรียนและข้อคิด: สิ่งที่คุณเรียนรู้จากการเทรดครั้งนั้นๆ เพื่อนำไปปรับปรุงในอนาคต

ผลลัพธ์ของการมี Trading Journal

การทำ Trading Journal อย่างสม่ำเสมอจะเปรียบเสมือนการมีโค้ชส่วนตัวที่คอยวิเคราะห์และให้ข้อเสนอแนะแก่คุณ คุณจะสามารถมองเห็นรูปแบบของความสำเร็จและความล้มเหลว, ระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของกลยุทธ์, และพัฒนา เทคนิคการเทรด ให้คมชัดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นกุญแจสำคัญสู่ วินัยและ Mindset ที่แข็งแกร่ง.

เคล็ดลับการเทรด ประโยชน์หลัก สิ่งที่คุณต้องทำ
1. เลือกสินทรัพย์ที่เข้าใจ ลดความเสี่ยง, เพิ่มความมั่นใจ ศึกษาพื้นฐานและเทคนิคของสินทรัพย์ที่สนใจอย่างลึกซึ้ง
2. ใช้แผนการเทรด ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล, มีกรอบการทำงาน กำหนดจุดเข้า/ออก, SL/TP, ขนาด Position และยึดมั่นในแผน
3. ไม่หยุดเรียนรู้ ปรับตัวเข้ากับตลาด, ค้นพบโอกาสใหม่ อ่านข่าว, วิเคราะห์, เข้าคอร์ส, ฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ใหม่ๆ
4. ควบคุมอารมณ์ ป้องกันการตัดสินใจผิดพลาดจากอคติ ฝึกวินัย, มีสติ, พักผ่อนให้เพียงพอ, ยึดแผนเป็นหลัก
5. บันทึกผลการเทรด เรียนรู้จากประสบการณ์, พัฒนาตนเอง จดรายละเอียดการเทรด, เหตุผล, อารมณ์, ผลลัพธ์ และบทเรียน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับเคล็ดลับการเทรด

Q1: ทำไมการเลือกสินทรัพย์ที่เข้าใจจึงสำคัญกว่าการเทรดสินทรัพย์ยอดนิยม?

A1: การเลือกสินทรัพย์ที่คุณเข้าใจอย่างลึกซึ้งช่วยให้คุณมี “Edge” หรือความได้เปรียบในตลาดมากกว่าการไล่ตามสินทรัพย์ยอดนิยมที่อาจไม่เข้ากับความรู้หรือสไตล์การเทรดของคุณ เมื่อคุณเข้าใจสินทรัพย์ คุณจะสามารถวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคได้อย่างแม่นยำขึ้น คาดการณ์แนวโน้มได้ดีขึ้น และตอบสนองต่อข่าวสารหรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีเหตุผล ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว การเทรดสินทรัพย์ยอดนิยมโดยไม่มีความเข้าใจอาจทำให้คุณตกเป็นเหยื่อของกระแสหรือข่าวลือได้ง่าย ซึ่งมักนำไปสู่การขาดทุนอย่างรวดเร็ว

Q2: แผนการเทรดที่ชัดเจนควรมีองค์ประกอบอะไรบ้างที่สำคัญที่สุด?

A2: แผนการเทรดที่สำคัญที่สุดควรมี 3 องค์ประกอบหลักที่เรียกว่า “3 M’s” ได้แก่ Mind (จิตวิทยา), Money (การบริหารเงินทุน), และ Method (กลยุทธ์) ในส่วนของ Method นั้น ควรระบุ เงื่อนไขการเข้าซื้อ (Entry) และ เงื่อนไขการขาย (Exit) ที่ชัดเจน รวมถึง จุดตัดขาดทุน (Stop Loss – SL) และ จุดทำกำไร (Take Profit – TP) ที่คำนวณจาก การบริหารความเสี่ยง ที่ยอมรับได้ องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างเป็นระบบ ลดการตัดสินใจตามอารมณ์ และปกป้องเงินทุนของคุณ การมีแผนที่ชัดเจนเป็นรากฐานสำคัญของวินัยในการเทรด

Q3: ควรเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้หยุดนิ่งในตลาดการเทรด?

A3: เพื่อไม่ให้หยุดนิ่ง คุณควรเน้นการเรียนรู้ทั้งด้าน การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง สำหรับเทคนิคัล ควรศึกษา รูปแบบแท่งเทียน (เช่น Marubozu, Doji), รูปแบบกราฟราคา (เช่น Head & Shoulders, Triple Top/Bottom), และ อินดิเคเตอร์ยอดนิยม (เช่น Moving Average, RSI, MACD) นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจสำคัญ (ข่าวทองคำ, ข่าว Forex) และทำความเข้าใจผลกระทบต่อตลาดก็เป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับ ระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) และ การใช้ AI ในการเทรด ก็จะช่วยให้คุณทันต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ

Q4: อารมณ์ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์การเทรดอย่างไร และจะจัดการได้อย่างไร?

A4: อารมณ์เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การตัดสินใจเทรดผิดพลาด ความโลภอาจทำให้คุณเปิด Position ใหญ่เกินตัวหรือถือ Position ที่ได้กำไรนานเกินไปจนกลับมาขาดทุน ส่วนความกลัวอาจทำให้คุณปิด Position ที่กำลังจะทำกำไรเร็วเกินไป หรือไม่กล้าเข้าเทรดในจังหวะที่ดี การจัดการอารมณ์ทำได้โดยการมี วินัย อย่างเคร่งครัดตาม แผนการเทรด ของคุณ ฝึกจิตวิทยาการเทรด ด้วยการยอมรับความจริงของตลาด, กำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ล่วงหน้า, หยุดพักเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าหรืออารมณ์ไม่ปกติ และหมั่นทบทวน Trading Journal เพื่อเรียนรู้จากข้อผิดพลาดด้านอารมณ์

Q5: Trading Journal ควรบันทึกอะไรบ้างนอกจากการได้กำไร-ขาดทุน และมันช่วยพัฒนาการเทรดอย่างไร?

A5: นอกจากข้อมูลกำไร-ขาดทุนแล้ว Trading Journal ที่สมบูรณ์ควรบันทึก เหตุผลในการเข้าเทรด (อิงตามกลยุทธ์ของคุณ), จุด SL/TP ที่กำหนดไว้, ความรู้สึกและอารมณ์ ในขณะเข้าและออกจากการเทรด, รวมถึง บทเรียนหรือข้อคิดที่ได้รับ จากการเทรดแต่ละครั้ง การบันทึกข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถ: (1) ระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของกลยุทธ์ ได้อย่างชัดเจน (2) เข้าใจรูปแบบพฤติกรรมของตนเอง ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเทรด (3) พัฒนาวินัยและความสม่ำเสมอ ในการปฏิบัติตามแผน (4) ปรับปรุงและปรับแต่งกลยุทธ์ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต ทำให้คุณสามารถเติบโตเป็นนักเทรดที่มีประสิทธิภาพและมีกำไรอย่างยั่งยืน

สรุป: ก้าวสู่การเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จด้วยหลักการที่มั่นคง

การ เทรด ไม่ได้เป็นเรื่องของโชคชะตาหรือความซับซ้อนที่เกินจะเข้าใจ หากแต่เป็นเรื่องของความรู้ ความเข้าใจ วินัย และการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง เคล็ดลับทั้ง 5 ประการนี้เป็นรากฐานสำคัญที่นักเทรดทุกคนควรยึดมั่นและนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด การเลือกสินทรัพย์ที่คุณเข้าใจอย่างลึกซึ้ง, การสร้างและยึดมั่นในแผนการเทรดที่ชัดเจน, การไม่หยุดเรียนรู้และปรับตัว, การควบคุมอารมณ์ให้เหนือกว่าความผันผวนของตลาด, และการบันทึกผลการเทรดอย่างสม่ำเสมอ คือเสาหลักที่จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนของคุณเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

จำไว้เสมอว่าความสำเร็จในการเทรดไม่ใช่การทำกำไรก้อนโตเพียงครั้งเดียว แต่คือความสามารถในการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ซึ่งเกิดจาก วินัยที่เข้มแข็งและการปฏิบัติตามแผน อย่างไม่ย่อท้อ หากคุณพร้อมที่จะยกระดับการเทรดของคุณให้ก้าวไปอีกขั้น อย่ารอช้า! เริ่มต้นนำ 5 เคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ตั้งแต่วันนี้ และติดตามบทความเชิงลึกเพิ่มเติมได้ที่ fttinvesting.com เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะของคุณให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น.

You Might Also Like

Contact Us on Line