🔹 การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องรู้
ไม่ว่าคุณจะเทรดเก่งแค่ไหน หรือระบบเทรดของคุณจะแม่นยำเพียงใด
แต่ถ้าคุณ “ไม่รู้จักการบริหารความเสี่ยง” — พอร์ตของคุณก็สามารถพังได้ภายในไม่กี่วัน
การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) จึงเป็นหัวใจหลักของการเทรดระยะยาว
มันคือศิลปะของ “การปกป้องเงินทุน” ก่อนที่จะคิดถึงการทำกำไร
💡 Risk Management คืออะไร?
Risk Management หมายถึง “กระบวนการจัดการความเสี่ยงในการเทรด”
หรือพูดง่าย ๆ คือ การวางแผนให้รู้ล่วงหน้าว่า
❝ ถ้าเราผิดทาง จะขาดทุนเท่าไหร่ และเรารับได้ไหม ❞
มันคือการควบคุมความเสียหาย เพื่อให้เราอยู่ในตลาดได้ต่อไป
เพราะถ้าเราหมดทุนก่อน จะไม่มีโอกาสทำกำไรอีกเลย
💰 1. การคำนวณขนาด Lot ให้เหมาะกับเงินทุน
หนึ่งในข้อผิดพลาดที่เทรดเดอร์มือใหม่มักทำคือ “เปิดล็อตใหญ่เกินไป”
แม้ระบบจะดี แต่ขนาดล็อตไม่สมดุลกับพอร์ต ก็ทำให้ความเสี่ยงสูงจนพังได้
✅ หลักการคำนวณง่าย ๆ
-
กำหนดว่า “ยอมขาดทุนได้กี่เปอร์เซ็นต์ต่อออเดอร์”
-
มือใหม่แนะนำไม่เกิน 1–2% ของเงินทุน
-
-
หาจำนวน Pip ที่คุณจะตั้ง Stop Loss
-
ใช้สูตร:
📌 ตัวอย่าง:
-
พอร์ต 10,000 USD
-
ยอมขาดทุนได้ 1% = 100 USD
-
ตั้ง Stop Loss 50 pip
-
มูลค่า 1 pip = 10 USD (กรณีคู่เงินหลัก)
ดังนั้น ขนาดล็อต = 100 / (50 × 10) = 0.20 lot
นี่คือการเทรดที่ “มีแผนและควบคุมได้”
📉 2. การตั้ง Stop Loss / Take Profit อย่างมีระบบ
🔹 Stop Loss (SL)
คือ “จุดตัดขาดทุน” ที่กำหนดไว้ก่อนเข้าเทรด เพื่อจำกัดการเสียหาย
ตั้ง SL ทุกครั้ง แม้จะมั่นใจแค่ไหนก็ตาม เพราะตลาดไม่มีอะไรแน่นอน
🔹 รับศาสตราจารย์
คือ “จุดทำกำไร” ที่ช่วยให้เราปิดออเดอร์ได้อย่างมีระบบ ไม่โลภ
ตั้ง TP โดยอิงจากอัตราส่วน “ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง” (Risk/Reward Ratio)
💬 ตัวอย่าง: RR 1:2
เสี่ยง 50 pip เพื่อหวังผล 100 pip
หมายความว่า ชนะครั้งเดียวสามารถล้างขาดทุนจากการแพ้สองครั้งได้
⚖️ 3. แนวคิด “เทรดให้อยู่รอดก่อน ค่อยคิดกำไร”
นี่คือหลักคิดของเทรดเดอร์ระดับโลกเกือบทุกคน
“การเทรดที่ดีไม่ใช่เทรดให้ได้กำไรเยอะ แต่คือเทรดให้แพ้ได้อย่างปลอดภัย”
ถ้าคุณเน้น “ความอยู่รอด” เป็นหลัก คุณจะไม่เทรดแบบเสี่ยงทั้งหมดในครั้งเดียว
คุณจะวางแผนให้พอร์ตเติบโตอย่างมั่นคง แม้จะช้าแต่ยั่งยืน
💬 คิดง่าย ๆ แบบนี้:
-
ถ้าเสีย 10% ของพอร์ต ต้องได้กำไร 11.1% เพื่อกลับมาที่เดิม
-
ถ้าเสีย 50% ต้องได้กำไร 100% เพื่อกลับมาเท่าเดิม!
จะเห็นว่าการเสียทุนหนัก ๆ ทำให้การฟื้นตัวยากมาก
ดังนั้น “การไม่เสีย” สำคัญกว่า “การได้” เสมอ
🧭 สรุปแนวทางบริหารความเสี่ยง
-
เสี่ยงไม่เกิน 1–2% ต่อออเดอร์
-
ตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง
-
วางเป้าหมายกำไรที่เหมาะสม (Risk/Reward ≥ 1:2)
-
ไม่เพิ่มล็อตเพื่อแก้มือ
-
เน้นการอยู่รอดก่อนกำไร
💬 “การบริหารความเสี่ยงคือเกราะป้องกันพอร์ต
และคือสิ่งที่แยกเทรดเดอร์มือสมัครเล่นออกจากมืออาชีพ”




No Comments