Bullish Engulfing Pattern: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ
ในโลกของการเทรด ฟอเร็กซ์ และตลาดการเงิน แท่งเทียนเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจสภาวะตลาดและคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่ได้รับความนิยมและมีความแม่นยำสูงคือ Bullish Engulfing (BuE) หรือรูปแบบแท่งเทียนกลืนกินขาขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวที่แข็งแกร่ง บ่งบอกถึงการเปลี่ยนผ่านจากแรงขาย (ตลาดหมี) ไปสู่แรงซื้อ (ตลาดกระทิง) ที่มีนัยสำคัญ
บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของ Bullish Engulfing Pattern ตั้งแต่ความหมาย ลักษณะเฉพาะ ไปจนถึงกลยุทธ์การเทรดที่ใช้ได้จริง เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
Bullish Engulfing คืออะไร? ทำไมจึงเป็นสัญญาณการกลับตัวที่น่าเชื่อถือ
Bullish Engulfing (BuE) เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่เกิดขึ้น ณ จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง (Downtrend) โดยมีลักษณะเด่นคือ แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick) แท่งที่สองมีขนาดใหญ่กว่าและกลืนกินแท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick) แท่งแรกอย่างสมบูรณ์
ทำไม Bullish Engulfing จึงมีความน่าเชื่อถือสูง?
- การเปลี่ยนผ่านของโมเมนตัมที่ชัดเจน: แท่งเทียนขาลงแท่งแรกแสดงถึงอำนาจของผู้ขาย แต่การปรากฏของแท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ที่กลืนกินแท่งแรกอย่างสิ้นเชิง บ่งบอกว่าแรงซื้อเข้าครอบงำตลาดอย่างรุนแรง ทำให้โมเมนตัมเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้นทันที
- ความเห็นพ้องของตลาด: รูปแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นในตลาด ผู้ซื้อเริ่มมั่นใจและเข้าซื้อในปริมาณมาก ซึ่งส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
- การทำลายแนวต้านทางจิตวิทยา: เมื่อราคาสามารถปิดเหนือราคาเปิดของแท่งเทียนขาลงก่อนหน้าได้สำเร็จ ถือเป็นการทำลายแนวต้านทางจิตวิทยา ทำให้เกิดแรงซื้อต่อเนื่อง
ความแม่นยำสูงของ Bullish Engulfing ทำให้มันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เทรดเดอร์มืออาชีพทั่วโลกให้ความไว้วางใจในการระบุจุดกลับตัวของราคา และเป็นสัญญาณที่ดีในการพิจารณาเข้าซื้อเพื่อทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นของราคาในอนาคต

ลักษณะเฉพาะของแท่งเทียน Bullish Engulfing: องค์ประกอบที่คุณต้องรู้
การระบุรูปแบบ Bullish Engulfing ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด รูปแบบนี้ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่งที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้:
1. แท่งเทียนแรก: แท่งเทียนขาลงขนาดเล็ก (Bearish Candlestick)
- เป็นแท่งเทียนสีแดง (หรือสีทึบ) ที่แสดงถึงแรงขายในตลาด
- ขนาดของแท่งเทียนแรกควรมีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งบ่งบอกถึงโมเมนตัมขาลงที่เริ่มอ่อนแรง หรือผู้ขายเริ่มไม่มั่นใจในการกดราคาลงต่อ
- ตัวแท่งเทียน (Real Body) ของแท่งแรกควรอยู่ต่ำกว่าหรือเท่ากับราคาเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า (ถ้ามี) ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มขาลง
2. แท่งเทียนที่สอง: แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ (Bullish Candlestick)
- เป็นแท่งเทียนสีเขียว (หรือสีโปร่ง) ที่แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
-
กฎสำคัญ: ตัวแท่งเทียนของแท่งที่สอง (ราคาเปิดถึงราคาปิด) จะต้องมีขนาดใหญ่กว่าและ “กลืนกิน” ตัวแท่งเทียนของแท่งแรกอย่างสมบูรณ์ นั่นหมายความว่า:
- ราคาเปิดของแท่งที่สองต้องต่ำกว่าราคาปิดของแท่งแรก
- ราคาปิดของแท่งที่สองต้องสูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรก
- ยิ่งแท่งเทียนที่สองมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ และกลืนกินแท่งแรกได้มากเท่าไหร่ สัญญาณการกลับตัวก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
- เงา (Wicks) ของแท่งเทียนทั้งสองอาจมีอยู่หรือไม่ก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว แท่งเทียน Engulfing ที่มีเงาสั้นหรือไม่มีเงาเลย จะยิ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่รุนแรงและชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ความหมายเชิงลึกของ Bullish Engulfing: การครอบงำของแรงซื้อ
แท่งเทียน Bullish Engulfing ไม่ได้เป็นเพียงแค่รูปแบบทางกราฟิกเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของ “จิตวิทยาตลาด” ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง
1. การสิ้นสุดของอำนาจหมีและการเริ่มต้นของกระทิง
การปรากฏของแท่งเทียน BuE บ่งชี้ว่า ณ จุดนั้น แรงขายที่เคยครอบงำตลาดในช่วงขาลงได้หมดลงแล้ว และถูกแทนที่ด้วยแรงซื้อที่มหาศาลของผู้เล่นในตลาด
- แท่งเทียนขาลงแรก: แสดงถึงความพยายามครั้งสุดท้ายของผู้ขายที่จะกดราคาให้ต่ำลง
- แท่งเทียนขาขึ้นที่สอง: สะท้อนถึงการเข้ามาของผู้ซื้อในจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงแต่หยุดยั้งการลดลงของราคาได้เท่านั้น แต่ยังผลักดันราคาให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนสามารถครอบคลุมช่วงราคาของแท่งเทียนก่อนหน้าได้อย่างสิ้นเชิง
สิ่งนี้เปรียบเสมือนการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อ (กระทิง) และผู้ขาย (หมี) ที่ผู้ซื้อสามารถเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด
2. สัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม (Reversal Signal)
เมื่อ Bullish Engulfing เกิดขึ้นที่ก้นของแนวโน้มขาลง (Downtrend) มันคือสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งว่าแนวโน้มขาลงกำลังจะสิ้นสุดลง และมีโอกาสสูงที่ราคาจะเริ่มปรับตัวเป็นขาขึ้น (Uptrend) ในระยะต่อไป เทรดเดอร์จึงมักใช้รูปแบบนี้เป็นจุดพิจารณาในการเปิดสถานะซื้อ (Long Position)
3. Bullish Engulfing เหนือกว่า Bullish Pin Bar อย่างไร?
ในบรรดารูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้น Bullish Engulfing มักถูกพิจารณาว่ามีความน่าเชื่อถือสูงกว่า Bullish Pin Bar (หรือ Hammer Candlestick) แม้ว่าทั้งสองรูปแบบจะส่งสัญญาณการกลับตัวขาขึ้นคล้ายกันก็ตาม
| คุณสมบัติ | Bullish Engulfing | Bullish Pin Bar (Hammer) |
|---|---|---|
| จำนวนแท่งเทียน | 2 แท่ง (ขาลงเล็ก + ขาขึ้นใหญ่) | 1 แท่ง (ตัวสั้น + ไส้ยาวด้านล่าง) |
| การก่อตัว | เป็นการรวมกันของ 2 แท่งเทียนที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมที่ชัดเจน | เป็นแท่งเทียนเดี่ยวที่แสดงถึงการปฏิเสธราคาต่ำสุด |
| ความชัดเจนของแรงซื้อ | แท่งเทียนที่สองกลืนกินแท่งแรกทั้งหมด แสดงถึงแรงซื้อที่เข้าครอบงำอย่างสมบูรณ์ | ไส้ยาวด้านล่างบ่งบอกว่าราคาถูกผลักดันขึ้น แต่ตัวแท่งเทียนอาจยังไม่แสดงถึงการครอบงำที่ชัดเจนเท่า |
| ความน่าเชื่อถือ | สูงกว่า เนื่องจากใช้เวลาและปริมาณการซื้อขายที่มากกว่าในการสร้างรูปแบบที่สมบูรณ์ | ดี แต่โดยทั่วไปถือว่ามีความน่าเชื่อถือรองลงมาจาก Bullish Engulfing เนื่องจากใช้แท่งเทียนเพียงแท่งเดียว |
ตัวอย่าง: หากเปรียบเทียบ (A) Bullish Engulfing กับ (C) Hammer Candlestick จะเห็นว่า BuE ใช้การรวมตัวของแท่งเทียนถึง 2 แท่ง ทำให้ภาพของการกลับตัวมีน้ำหนักและความชัดเจนมากกว่า

4. พลังของการกลืนกินที่เหนือกว่า
Bullish Engulfing ที่มีประสิทธิภาพสูง บางครั้งอาจไม่ได้กลืนกินแค่แท่งเทียนขาลงแท่งเดียวก่อนหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถกลืนกินแท่งเทียนขาลงหลายแท่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าได้อีกด้วย (ดังตัวอย่างภาพด้านล่าง, A) สิ่งนี้บ่งบอกถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ และสามารถล้างโมเมนตัมขาลงของช่วงเวลาก่อนหน้าได้อย่างเด็ดขาด ส่งผลให้การกลับตัวมีพลังและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีรูปแบบย่อยของ Bullish Engulfing (Variant BuE, B) ที่อาจปรากฏเมื่อราคาได้ลดลงจนถึงจุดที่แรงขายหมดลงอย่างสมบูรณ์ก่อนที่แรงซื้อจะเข้าครอบงำอย่างรวดเร็ว รูปแบบนี้ยังคงเป็นสัญญาณขาขึ้นที่แข็งแกร่งเช่นกัน

เคล็ดลับและข้อควรพิจารณาเมื่อเทรดด้วย Bullish Engulfing Pattern
แม้ว่า Bullish Engulfing จะเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ แต่การใช้เพียงรูปแบบเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจเทรดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เทรดเดอร์ควรพิจารณาปัจจัยเสริมอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยง
1. ยืนยันแนวโน้มขาลงก่อนหน้า (Pre-existing Downtrend)
สิ่งสำคัญที่สุดในการระบุ Bullish Engulfing ที่มีนัยสำคัญคือ ต้องแน่ใจว่าราคากำลังอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน รูปแบบ BuE จะมีความน่าเชื่อถือสูงสุดเมื่อปรากฏที่ “จุดต่ำสุด” หรือบริเวณแนวรับที่สำคัญของแนวโน้มขาลง หากรูปแบบนี้เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้นหรือตลาดไซด์เวย์ (Sideways Market) ความน่าเชื่อถือของสัญญาณจะลดลงอย่างมาก
เคล็ดลับ: ใช้ Moving Average (MA) เช่น EMA 20, 50, 100 หรือ 200 เพื่อยืนยันแนวโน้ม การที่ราคาอยู่ใต้เส้น MA เหล่านี้ บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง
2. การปรากฏที่แนวรับสำคัญ (Key Support Level)
Bullish Engulfing จะมีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือมากขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อมันเกิดขึ้นที่บริเวณแนวรับที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น:
- แนวรับแนวนอน (Horizontal Support) ที่ราคามักจะเด้งกลับขึ้นไปในอดีต
- แนวรับจากเส้นเทรนด์ไลน์ (Trendline Support)
- แนวรับจากระดับ Fibonacci Retracement ที่สำคัญ เช่น 50% หรือ 61.8%
- จุด Pivot Points หรือระดับทางจิตวิทยา (Psychological Levels)
การรวมกันของ Bullish Engulfing กับแนวรับที่แข็งแกร่ง เป็นการยืนยันว่าบริเวณนั้นมีแรงซื้อที่รออยู่จำนวนมาก
3. สังเกตแท่งเทียนก่อนหน้าและบริบทของตลาด
อย่ามองแค่สองแท่งเทียนที่สร้างรูปแบบ Bullish Engulfing เพียงอย่างเดียว การพิจารณาแท่งเทียนหลายแท่งก่อนหน้า รวมถึงบริบทของตลาดโดยรวม จะช่วยให้คุณได้ภาพที่ชัดเจนขึ้น
- แท่งเทียนขาลงก่อนหน้า: หากแท่งเทียนขาลงก่อนหน้ามีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ก่อนที่ BuE จะปรากฏ นั่นหมายถึงแรงขายที่อ่อนกำลังลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการกลับตัว
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume): หากการปรากฏของ Bullish Engulfing เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ นั่นคือการยืนยันที่แข็งแกร่งว่ามีแรงซื้อจำนวนมากเข้ามาในตลาด
- Indicator อื่นๆ: ใช้ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Indicators) อื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ เช่น RSI ที่ออกจากภาวะ Oversold (ขายมากเกินไป) หรือ MACD ที่เกิด Golden Cross
4. การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit
- Stop Loss (SL): ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Stop Loss คือ ต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งเทียน Bullish Engulfing แท่งที่สองเล็กน้อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาย้อนกลับไปในทิศทางขาลงอีกครั้ง
- Take Profit (TP): การตั้ง Take Profit สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ตั้งไว้ที่แนวต้านสำคัญถัดไป, ใช้ Fibonacci Extension, หรือใช้ Risk-Reward Ratio ที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Bullish Engulfing Pattern
Q1: Bullish Engulfing Pattern มีความแม่นยำ 100% หรือไม่?
A1: ไม่มีรูปแบบแท่งเทียนหรือเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคใดๆ ที่มีความแม่นยำ 100% Bullish Engulfing เป็นสัญญาณที่มีความน่าเชื่อถือสูง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดสัญญาณหลอก (False Signal) ได้เสมอ เทรดเดอร์จึงควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ เช่น แนวรับแนวต้าน, ปริมาณการซื้อขาย, และ Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มความน่าจะเป็นของความสำเร็จ
Q2: ควรใช้ Bullish Engulfing ใน Timeframe ใดจึงจะดีที่สุด?
A2: Bullish Engulfing สามารถพบได้ในทุก Timeframe แต่โดยทั่วไปแล้ว รูปแบบที่ปรากฏใน Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น เช่น Daily (รายวัน), Weekly (รายสัปดาห์) จะมีความน่าเชื่อถือและมีน้ำหนักมากกว่ารูปแบบที่ปรากฏใน Timeframe ที่เล็กกว่า เช่น 1-นาที หรือ 5-นาที เนื่องจากมันสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของ sentiment ตลาดในวงกว้างกว่า อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ระยะสั้น (Scalper) ก็สามารถใช้ BuE ใน Timeframe เล็กๆ ได้ แต่ต้องระวัง False Signal มากขึ้น
Q3: Bullish Engulfing แตกต่างจาก Piercing Pattern อย่างไร?
A3: ทั้ง Bullish Engulfing และ Piercing Pattern เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นที่ประกอบด้วย 2 แท่งเทียนคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญคือ:
- Bullish Engulfing: แท่งเทียนขาขึ้นแท่งที่สอง “กลืนกิน” ตัวแท่งเทียนของแท่งแรกอย่างสมบูรณ์ (ราคาปิดของแท่งสองสูงกว่าราคาเปิดของแท่งแรก)
- Piercing Pattern: แท่งเทียนขาขึ้นแท่งที่สองเปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งแรก แต่ปิดขึ้นไปอยู่ “เกินกึ่งกลาง” ของตัวแท่งเทียนของแท่งแรก ไม่ได้กลืนกินทั้งหมด
Bullish Engulfing มักถูกพิจารณาว่าเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งกว่า Piercing Pattern เนื่องจากแสดงถึงการครอบงำของแรงซื้อที่ชัดเจนกว่า
Q4: หาก Bullish Engulfing เกิดขึ้นพร้อมข่าวสำคัญ ควรเทรดหรือไม่?
A4: การเทรดในช่วงที่มีข่าวสำคัญมีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากตลาดอาจมีความผันผวนสูงและคาดเดาทิศทางได้ยาก แม้ว่า Bullish Engulfing จะเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่ง แต่ผลกระทบจากข่าวอาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบได้ หากคุณไม่ใช่เทรดเดอร์ข่าว (News Trader) ที่มีประสบการณ์สูง ควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงเวลาดังกล่าว หรือรอให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้นก่อน
Q5: สามารถใช้ Indicator ใดร่วมกับ Bullish Engulfing เพื่อเพิ่มความแม่นยำได้บ้าง?
A5: การใช้ Indicator ร่วมด้วยจะช่วยเพิ่มความแม่นยำอย่างมาก:
- RSI (Relative Strength Index): หาก BuE เกิดขึ้นในขณะที่ RSI อยู่ในโซน Oversold (ต่ำกว่า 30) และกำลังวกตัวขึ้น จะเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง
- Stochastic Oscillator: คล้ายกับ RSI หาก Stochastic อยู่ในโซน Oversold และเกิด Cross ขึ้น จะเป็นการยืนยันที่ดี
- MACD (Moving Average Convergence Divergence): การเกิด Golden Cross (เส้น MACD ตัดเหนือเส้น Signal Line) หรือ MACD Histogram เปลี่ยนจากลบเป็นบวก พร้อมกับ BuE เป็นสัญญาณที่ทรงพลัง
- Volume: การที่ BuE เกิดขึ้นพร้อม Volume ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บ่งบอกถึงการเข้ามาของ Smart Money
สรุปและข้อคิดสำหรับการนำไปใช้
Bullish Engulfing Pattern เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นที่ทรงพลังและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่นักลงทุนและนักเก็งกำไรทั่วโลก ด้วยลักษณะเฉพาะของแท่งเทียนขาขึ้นที่กลืนกินแท่งเทียนขาลงก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์ ทำให้มันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการเปลี่ยนผ่านจากแรงขายไปสู่แรงซื้อ และบ่งบอกถึงโอกาสในการกลับตัวของแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การใช้ Bullish Engulfing Pattern มีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด คุณควรปฏิบัติตามหลักการสำคัญดังนี้:
- ยืนยันแนวโน้ม: รูปแบบนี้มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อปรากฏในแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน
- พิจารณาตำแหน่ง: ค้นหารูปแบบนี้ในบริเวณแนวรับที่สำคัญ หรือจุดกลับตัวที่มีนัยสำคัญ
- ใช้เครื่องมือยืนยัน: ผสมผสานการวิเคราะห์ร่วมกับ Indicator อื่นๆ เช่น RSI, MACD, Stochastic หรือปริมาณการซื้อขาย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณ
- บริหารความเสี่ยง: กำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสมทุกครั้ง เพื่อปกป้องเงินทุนและรักษากำไร
การฝึกฝนและประสบการณ์ในการสังเกตรูปแบบนี้ในสถานการณ์ตลาดที่แตกต่างกัน จะช่วยให้คุณสามารถตีความและใช้งาน Bullish Engulfing ได้อย่างเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น จงจำไว้ว่าการเทรดคือศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ต้องใช้ทั้งความรู้, ทักษะ, และวินัยในการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรดหรือระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร สามารถเข้าร่วมกลุ่ม Line VIP ของเรา และรับ EA ฟรีได้ โดยมีเงื่อนไขเพียงเล็กน้อยคือการสมัครเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ที่เราแนะนำ:
- XM – โบรกเกอร์คุณภาพอันดับหนึ่งในไทย
- Mtrading – สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip ค่าคอมมิชชั่นต่ำ
- Exness – โบรกเกอร์ที่ฝากและถอนเงินได้รวดเร็วที่สุด
หลังจากสมัครเสร็จสิ้น กรุณาส่งเลข MT4 ของคุณมาที่ Line ID: @ft.th เพื่อขอรับ EA ฟรี และเข้าร่วมกลุ่มพูดคุยของเราเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับเทรดเดอร์ท่านอื่นๆ
ช่องทางการพูดคุย:
- Line ID: @ft.th
- Facebook: ForexTipsThailand
- กลุ่มพูดคุย: เทรดฟอเร็กซ์ให้ได้กำไรอย่างยั่งยืน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน


